อัพเดททุกสาระ ข่าวสารเพื่อสุขภาพ มั่นใจไม่ตกเทรนด์
กิจกรรมแถลงความร่วมมือ (Kick Off) แคมเปญ “ยิ้มคนไทย ไร้ฟันผุ” ภายใต้โครงการความร่วมมือเดือนแห่งการรณรงค์ดูแลสุขภาพช่องปากคนไทย ตุลาคม 2567
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 เวลา 9.00 น. สำนักทันตสาธารณสุขจัดการประชุมพัฒนาระบบและกลไกการดูแลสุขภาพช่องปากสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงและผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อม ณ ห้องประชุมกองการเจ้าหน้าที่ อาคาร 4 ชั้น 3 กรมอนามัย และผ่านระบบ video conference
& สื่อมัลติมีเดีย
เพลงแปรงฟันสำหรับเด็กปฐมวัย (อายุต่ำกว่า 6 ปี)
อาหารที่ทำให้ฟันผุที่เจอได้มากในชีวิตประจำวัน มีดังนี้ ?? 1.น้ำอัดลมและน้ำหวาน?? เพราะน้ำตาลที่อยู่ในน้ำหวานและน้ำอัดลม จะทำให้เกิดคราบพลัคได้ง่าย อีกทั้งกรดคาร์บอนิก (Carbonic acid) ที่อยู่น้ำอัดลม ยังมีฤทธิ์กัดกร่อนผิวเคลือบฟัน และเป็นต้นเหตุทำให้ฟันสึกกร่อนได้มากที่สุดด้วย ??2.อาหารแข็ง โดยเฉพาะน้ำแข็งและกระดูก?? ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นของแข็งและเหนียว เช่น น้ำแข็ง ถั่ว หรือกระดูกหมู เพราะเสี่ยงทำให้เกิดฟันบิ่น แตก หรือหักได้ ??3.ผลไม้อบแห้ง?? นอกจากจะมีน้ำตาลสูงแล้ว ยังเป็นอาหารที่มีความเหนียวและแข็งด้วย ติดฟันได้ง่าย ?4.ชาและกาแฟ?? สารเทนนิน (Tannin) ที่พบในชาและกาแฟ มีฤทธิ์กัดกร่อนผิวฟัน และทำให้ฟันสึกกร่อนง่าย ??5.ขนมหวาน ขนมกรุบกรอบ ลูกอม ไอศกรีม?? น้ำตาลจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียในช่องปาก และทำให้เกิดคราบจุลินทรีย์บนผิวฟัน ???? เพื่อการดูแลสุขภาพฟันจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเหล่านี้ และแปรงวันละ 2 ครั้งด้วยสีฟันผสมฟลูออไรด์ นาน 2 นาที และงดกินอาหารหลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมง เพียงเท่านี้ทุก ๆ คนก็จะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรงได้แน่นอน ???
ดาวน์โหลดอินโฟกราฟิกนี้ | 2 ภาพ |
สำหรับน้อง ๆ หนู ๆ คุณพ่อคุณแม่ ควรมีการสอนการแปรงฟันให้เด็ก ๆ อย่างถูกวิธี เพื่อลดปัญหาสุขภาพช่องปากและโรคฟันผุนะครับ เพราะเด็กที่มีอาการฟันผุในฟันน้ำนม จะมีโอกาสฟันผุในฟันแท้ได้ถึง 3 เท่าเลยทีเดียวครับ ?? มาดูการแปรงฟันถูกวิธี...ฟันดีด้วย 6 Step กันครับ ?? STEP 1 : วางแปรงสีฟันบริเวณรอยต่อของฟันกับเหงือก โดยให้ขนแปรงทำมุม 45 องศา STEP 2 : ขยับขนแปรง ไป-มาสั้น ๆ 10 ครั้งแล้วปัด โดยฟันบนให้ปัดลงล่าง และฟันล่างให้ปัดขึ้นบน STEP 3 : ทำซ้ำที่เดิม 3-4 ครั้ง จากนั้นขยับแปรงไปในตำแหน่งฟันข้างเคียงจนครบทุกซี่ ทุกด้าน STEP 4 : แปรงฟันด้านบดเคี้ยวโดยถูไป-มา ในแนวหน้าหลัง ประมาณ 10 ครั้ง STEP 5 : แปรงลิ้นเบา ๆ เมื่อมีคราบสกปรก STEP 6 : บ้วนฟองทิ้งหรือบ้วนน้ำน้อย ๆ เพียง 1 ครั้ง จะทำให้มีฟลูออไรด์คงเหลืออยู่ในช่องปาก สามารถช่วยป้องกันฟันผุได้ ?? สำคัญ !! ?? - ต้องแปรงฟันให้ถึงฟันกรามซี่ในสุด เพราะเป็นส่วนที่เกิดฟันผุได้ง่าย - เน้นแปรงฟันด้านล่างลิ้น มักแปรงไม่ถึงทำให้มีหินปูนเป็นจำนวนมาก
ดาวน์โหลดอินโฟกราฟิกนี้ | 2 ภาพ |
การจัดฟันแฟชั่น เป็นการใส่เครื่องมือเลียนแบบการจัดฟัน ที่ทันตแพทย์ใช้ในการรักษาผู้ป่วย ซึ่งพบมากในกลุ่มวัยรุ่น แล้วรู้กันมั้ยคะว่า การจัดฟันแฟชั่นที่ไมได้มาตรฐาน หรือการจัดฟันโดยบุคลากรที่ไม่ใช่ทันตแพทย์นั้น ”มีอันตรายกว่าที่คิด”. วันนี้เราจะพาทุกคนไปดู ”6 ข้ออันตรายจัดฟันแฟชั่น...เสี่ยงทรุดก่อนสวย จะมีอะไรบ้างไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ 1.ลวดจัดฟันอาจบาดกระพุ้งแก้ม จนเกิดเป็นแผลเรื้อรัง ติดเชื้อ อาจเสี่ยงต่อบาดทะยัก 2.การปรับลวดโดยขาดความชำนาญ เกิดแรงกดในทิศทางไม่เหมาะสม อาจทำให้ปวดฟันมากผิดปกติและฟันเคลื่อนที่ผิดจากตำแหน่งปกติ 3.เครื่องมือจัดฟันที่ติดไม่ถูกต้อง อาจหลุดลงไปติดคอหรือหลอดลม อันตรายถึงชีวิต 4.การนำเครื่องมือไปติดบริเวณฟัน ทำให้การทำความสะอาดฟันทำได้ยากขึ้น หากมีการกรอชั้นเคลือบฟันออก จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุ. 5.ลวดจัดฟันที่ไมได้มาตรฐาน ปนเปื้อนด้วยโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู หากติดนานๆโลหะหนักอาจะส่งผลต่อการทำงานของตับ หัวใจ และอาจเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้ 6.เครื่องมือไม่ผ่านการฆ่าเชื้อโรค อาจเสี่ยงต่อการถ่ายทอดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและวัณโรค
ดาวน์โหลดอินโฟกราฟิกนี้ | 5 ภาพ |
”โค้ดลับฟันดี 2-2-2...เริ่มต้นปีด้วยฟันสวย” 2 ครั้ง >>> ควรแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ในช่วงเช้าและก่อนเข้านอน เพื่อลดแผ่นคราบจุลินทรีย์ที่สะสมในช่องปาก 2 นาที >>> ควรแปรงฟันนาน 2 นาที ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ เพื่อให้แน่ใจว่าแปรงฟันสะอาด ทั่วถึงครบทุกซี่ทุกด้านของฟันในปาก 2 ชั่วโมง >>> ควรปล่อยให้ปากสะอาดหลังแปรงฟัน ไม่ควรรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมง หลังจากการแปรงฟันเพื่อให้ฟลูออไรด์คงอยู่ในช่องปากนานที่สุด โค้ดลับ 2-2-2 ทำได้ง่าย ๆ และสามารถเริ่มทำได้ทันที มาเริ่มต้นปีด้วยฟันสวย ๆ ด้วยกันนะครับ
ดาวน์โหลดอินโฟกราฟิกนี้ | 2 ภาพ |
เด็กไทยทุกคนจะได้รับการดูแลสุขภาพช่องปากขั้นพื้นฐานตามความจำเป็น เพื่อดูแลรักษาสุขภาพช่องปากของน้อง ๆ ให้มีสุขภาพช่องปากที่ดีกันคะ สิทธิประโยชน์ทางทันตกรรมของเด็กไทย ได้แก่ 1. การตรวจฟัน : เด็กไทยทุกคนจะได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากโดยทันตบุคลากร อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อค้นหาโรคฟันผุหรือโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่องปาก 2. การเคลือบหลุมร่องฟัน : จะทำให้หลุมร่องฟันตื้นขึ้น ทำความสะอาดง่ายขึ้น สามารถป้องกันฟันผุด้านบดเคี้ยวได้ 3. การเคลือบฟลูออไรด์ : โดยจะใช้ฟลูออไรด์เจลที่มีความเข้มข้นสูง เคลือบบนผิวฟันทุกซี่ 4. การถอนฟัน / อุดฟัน / ขูดหินปูน หลังการตรวจฟัน : เมื่อได้รับการตรวจฟันเรียบร้อยแล้ว น้อง ๆ ที่มีปัญหาในช่องปากจะได้รับใบแจ้งผู้ปกครองให้พาไปรับบริการที่สถานบริการทางทันตกรรม
ดาวน์โหลดอินโฟกราฟิกนี้ | 1 ภาพ |